เมื่อประเมินคุณภาพของ ซีลน้ำมันแบบโครง ควรพิจารณาสองด้านหลัก ได้แก่ รูปลักษณ์และสมรรถนะ ดังนี้คือมาตรฐานที่ยอมรับโดยทั่วไป
การตรวจสอบลักษณะ
คุณภาพพื้นผิว: ซีลน้ำมันคุณภาพสูงควรจะมีผิวเรียบสม่ำเสมอโดยไม่มีเสี้ยน รอยแตกร้าว ฟองอากาศ หรือสิ่งเจือปนฝังอยู่ พื้นผิวยางต้องมีสีสม่ำเสมอ กรอบโลหะควรปราศจากสนิม และริมซีล (ขอบ) ต้องคม เรียบสม่ำเสมอ และไม่มีรอยบาก
ความแม่นยำของขนาด: โดยใช้ไมโครมิเตอร์ เฟืองวัดความคลาดเคลื่อนของเส้นผ่านศูนย์กลางภายในและภายนอกมักจะอยู่ในช่วง ±0.1 มม. โดยขนาดร่องเกินควรอยู่ที่ประมาณ 0.1–0.3 มม. พื้นผิวซีลควรมีการแสดงขนาดอย่างชัดเจน (เส้นผ่านศูนย์กลางเพลา × เส้นผ่านศูนย์กลางภายนอก × ความสูง) ชื่อผู้ผลิต และเครื่องหมายการค้า
ความสมบูรณ์แบบทางโครงสร้าง ยางต้องยึดติดแน่นกับแหวนเสริมแรง โดยไม่มีการหลวมหรือเยื้องตำแหน่ง พื้นผิวด้านในและด้านนอกห้ามเผยให้เห็นโลหะ สำหรับซีลที่มีสปริง สปริงต้องปราศจากสนิม ไม่บิดเบี้ยว และต้องตั้งอยู่ในร่องอย่างมั่นคง
การทดสอบผลการทํางาน
ความต้านทานน้ำมัน: จุ่มซีลลงในน้ำมันเกียร์เบอร์ 25 ที่อุณหภูมิ 70 ± 5 °C เป็นเวลา 24 ชั่วโมง การเปลี่ยนแปลงน้ำหนักควรอยู่ในช่วง −3% ถึง +5% หรือทางเลือกอื่น จุ่มในสารผสมของน้ำมันเบนซินเบอร์ 120 75% และเบนซีน 25% ที่อุณหภูมิ 20 ± 5 °C เป็นเวลา 24 ชั่วโมง การเปลี่ยนแปลงน้ำหนักต้องไม่เกิน +20%
ความทนทานต่ออุณหภูมิสูง: วัสดุของซีลต้องสามารถทนต่อช่วงอุณหภูมิการใช้งานที่หลากหลายได้ ซีลน้ำมันคุณภาพสูงควรรักษาน้ำหนักปิดผนึกได้ทั้งในสภาวะอุณหภูมิสูงและต่ำ โดยไม่เกิดการเสื่อมสภาพ แข็งตัว หรืออ่อนตัว
ประสิทธิภาพในการปิดผนึก: ผ่านการทดสอบติดตั้ง เพื่อยืนยันว่าซีลสามารถป้องกันการรั่วของน้ำมันระหว่างการหมุนของเพลา และป้องกันสิ่งปนเปื้อนจากภายนอกเข้ามา ปกติจะใช้การทดสอบตามมาตรฐานด้านแรงดันและอุณหภูมิ เพื่อยืนยันประสิทธิภาพการปิดผนึก
คุณสมบัติทางกายภาพ: วัดค่าความแข็ง (ค่าความคลาดเคลื่อน ±5 Shore A) ความต้านทานแรงดึงและแรงอัด รวมถึงความต้านทานต่อแรงเสียดทานและการเสื่อมสภาพ โดยใช้เครื่องมือทดสอบเฉพาะทาง
ด้วยการตรวจสอบทั้งลักษณะภายนอกและสมรรถนะเทียบกับมาตรฐานเหล่านี้ คุณสามารถระบุได้อย่างรวดเร็ยว่าซีลน้ำมันแบบโครงสร้าง (skeleton oil seal) เป็นไปตามข้อกำหนดด้านคุณภาพหรือไม่
ข่าวเด่น